คำแนะนำจากแจ็คหม่า นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและธุรกิจ
|แจ็คหม่า จากคนที่มีเงินเดือนเพียง 500 บาท ปัจจุบันตอนนี้บริษัทอลิบาบา (Alibaba) ของเขานั้นมีมูลค่าสูงมากกว่า 5,000,000,000,000 (ห้าล้านล้านบาท) เลยทีเดียว และนับเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่มีมูลค่าทางตลาดสูงมากกว่าบริษัทอีเบย์, ทวีตเตอร์ และลิงค์อิน 3 บริษัทรวมกัน แจ็คหม่าจึงเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดในประเทศจีนตอนนี้
เราจะประสบความสำเร็จในชีวิตและธุรกิจได้อย่างไร
มีคำแนะนำจากแจ็คหม่าที่น่าสนใจ เกี่ยวกับการที่เราจะประสบความสำเร็จในชีวิตและธุรกิจ ดังนี้

สิ่งที่แจ็คหม่าเสียใจที่สุด
“ย้อนไปเมื่อเริ่มต้นธุรกิจเมื่อปี ค.ศ. 2001 ผมได้ทำสิ่งผิดพลาดมาก ซึ่งความผิดพลาดนั้นคือ ผมได้บอกผู้ร่วมลงเรือลำเดียวกันในการเริ่มธุรกิจกับผมทั้ง 18 คนว่า การทำงานในตำแหน่งระดับการจัดการเท่านั้นคือตำแหน่งงานสูงสุดที่พวกเขาสามารถไปได้ ส่วนตำแหน่งประธานและตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของเรานั้น เราจำเป็นจะต้องจ้างบุคคลากรจากภายนอกมาบริหารงาน และอีกไม่กี่ปีต่อมา พวกเขาเหล่านั้นก็ได้ลาออกไป แต่คนที่ผมสงสัยในความสามารถนับตั้งแต่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาก็ได้ขึ้นไปเป็นประธานบริหารและผู้อำนวยการ”
หลังจากนั้นจึงทำให้แจ็คหม่าเชื่ออยู่ใน 2 หลักการ คือ
- ทัศนคติของคุณนั้นสำคัญกว่าความสามารถ
- และการตัดสินใจของคุณนั้นก็สำคัญกว่าความสามารถ
คุณไม่สามารถที่จะทำให้คนทุกคนนั้นคิดคล้าย ๆ กันได้ แต่ด้วยเป้าหมายเดียวกันคุณจะสามารถทำให้ทุกคนนั้นไปในแนวทางเดียวกันได้
อย่าพยายามแม้แต่จะคิดเลยว่าคุณจะทำให้ทุกคนคิดเหมือนกันได้ “มันไม่มีทางเป็นไปได้”
จาก 30% ของผู้คนทั้งหมดนั้น จะไม่มีวันเชื่อคุณเลย
อย่าพยายามทำให้พนักงานและเพื่อนร่วมงานทำงานให้คุณ แต่จงทำให้เขาได้ร่วมทำงานเพื่อเป้าหมายเดียวกันต่างหาก
มันง่ายกว่ามากที่จะให้คนในบริษัทรวมใจกันอยู่ภายใต้เป้าหมายร่วมกัน มากกว่าการรวมใจไปอยู่ที่ตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
อะไรที่มีในตัวผู้นำแต่พนักงานธรรมดาไม่มี
คนที่เป็นผู้นำนั้นไม่ควรจะนำทักษะเชิงเทคนิคไปเปรียบเทียบกับพนักงานของตน ซึ่งพนักงานของคุณนั้นจำเป็นต้องมีทักษะเชิงเทคนิคนี้มากกว่าคุณ และถ้าหากว่าเขาไม่มี นั่นก็แสดงว่าคุณจ้างคนผิดแล้ว !
สิ่งที่ทำให้ผู้นำโดดเด่น
- ผู้นำนั้นควรจะมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลกว่าพนักงานธรรมดา
- ผู้นำควรจะมีกล้าหาญ ยืดหยัด และความอดทนในสิ่งที่พนักงานธรรมดาไม่สามารถทำได้
- ผู้นำควรจะมีความอึดและความสามารถที่จะยอมรับสิ่งที่ล้มเหลวได้
คุณภาพของผู้นำที่ดีนั้นอยู่ที่วิสัยทัศน์ แรงใจและความสามารถ
ทำธุรกิจอย่าริยุ่งการเมือง
ต้องเข้าใจเสมอว่าอำนาจทางการเมืองและเงินมันอยู่ที่เดียวกันไม่ได้ หากคุณอยู่ในวงการเมือง ก็ไม่ควรคิดเรื่องเงินอีกต่อไป หากคุณทำธุรกิจก็จงอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง หากสองอย่างนี้อยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ รอวันจบได้เลย
4 คำถามที่คนรุ่นใหม่ควรจะเฝ้าถามตัวเอง
อะไรคือความล้มเหลว: การยอมแพ้นั้นเป็นความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
อะไรคือความยืดหยุ่น: คุณจะเข้าใจความหมายของมันก็ต่อเมื่อคุณผ่านความยากลำบาก ผ่านความทุกข์และความผิดหวังมาแล้วเท่านั้น
อะไรคือความรับผิดชอบและหน้าที่: การที่จะต้องขยันมากขึ้น ทำงานหนักและมีความทะเยอทะยานมากกว่าคนอื่น ๆ คนโง่เท่านั้นที่ใช้ปากทำงาน คนฉลาดใช้สมองทำงาน และคนที่ปราดเปรื่องจะก็ใช้หัวใจของเขา
คนเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตและหาประสบการณ์ชีวิต
ต้องบอกกับตัวเองเสมอว่าคนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงาน แต่เพื่อสนุกกับชีวิต และเราเกิดมาเพื่อทำสิ่งที่ดีกว่า ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงาน หากคุณกำลังใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อทำงาน คุณจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน
และไม่ว่าคุณนั้นจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงานของคุณมากเพียงใดก็ตาม คุณจะต้องจำไว้ว่าคนเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต ถ้าคุณยุ่งอยู่แต่กับการทำงาน ในที่สุดนั้นคุณจะต้องเสียใจ
เวทีแข่งขัน และการแข่งขันในธุรกิจ
- พวกที่บ้าการแข่งขันกันอย่างระห่ำนั้นคือพวกคนโง่
- หากว่าคุณมองทุกคนรอบตัวเป็นศัตรู ทุกคนรอบตัวคุณก็จะกลายเป็นศัตรูของคุณ
- หากทำการแข่งขันกันกับคู่แข่ง พยายามอย่าใช้ความเกลียดชัง เพราะความเกลียดจะทำให้คุณพ่ายแพ้
- การแข่งขันนั้นก็คล้าย ๆ การเล่นหมากกระดาน หากคุณแพ้กระดานนี้ คุณก็ยังมีโอกาสเล่นต่อในกระดานต่อไป ดังนั้นทั้งสองฝั่งไม่ควรจะสู้กันเอง
- ผู้ที่ธุรกิจที่แท้จริงนั้นไม่ควรมีศัตรูเลย หากว่าใครเข้าใจตรงจุดนี้ ก็ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ในโลกธุรกิจ
อย่าจู้จี้ขี้บ่นเป็นนิสัย
การบ่นหรือจู้จี้ ถ้านาน ๆ ครั้งมันก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ถ้าหากคุณบ่นจนเป็นนิสัยแล้ว คุณก็จะยิ่งบ่นมากขึ้นไปอีก เปรียบได้กับการดื่มน้ำทะเล ยิ่งดื่มยิ่งกระหาย ดื่มไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร
การบ่นนั้นก็เหมือนกัน การบ่นเยอะ ๆ มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เพราะหนทางสู่ความสำเร็จนั้น คุณจะสังเกตได้ว่าผู้ที่สำเร็จส่วนใหญ่นั้นมักจะไม่ขี้บ่น
โลกนี้จำไม่ได้หรอกว่าคุณได้พูดอะไรไปบ้าง แต่จะไม่ลืมสิ่งที่คุณได้ทำ
คำแนะนำของแจ็คหม่าสำหรับผู้ประกอบการ
- โอกาสที่ทุกคนไม่เห็นนั้นคือโอกาสที่แท้จริง
- ต้องให้พนักงานคุณมาถึงที่ทำงานด้วยรอยยิ้มเสมอ
- ลูกค้าต้องมาอันดับ 1, พนักงานอันดับ 2, และผู้ถือหุ้นมาอันดับ 3
- นำมาใช้และเปลี่ยนแปลงก่อนเทรนด์ หรือการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ๆจะเกิดขึ้น
- ลืมเรื่องเงิน ลืมเรื่องการหาเงินไปบ้าง
- แทนที่จะไปเสียเวลากับเทคนิคเล็กน้อยกับการเรียกลูกค้าใหม่ ควรมุ่งเน้นไปที่การครองใจและดูแลลูกค้าเก่า
- ทัศนคติของคุณนั้นจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะไปได้ไกลแค่ไหน
การเป็นผู้ประกอบการ
- โอกาสที่ยิ่งใหญ่นั้นมักจะอธิบายชัดเจนไม่ได้ ส่วนสิ่งที่อธิบายชัดเจนได้นั้นมักจะไม่ใช่โอกาสที่ดีที่สุด
- คุณควรจะหาคนที่มาทำให้บริษัทสมบูรณ์ขึ้น โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องหาคนที่ประสบความสำเร็จ หาคนที่ใช่ ไม่ใช่หาคนที่ดีที่สุด
- สิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือมากที่สุดในโลกนี้คือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์
- “ฟรี” เป็นคำที่แพงที่สุด
- วันนี้เป็นวันที่โหดร้าย พรุ่งนี้จะเป็นวันที่จะแย่กว่า แต่มะรืนนี้จะเป็นวันที่สวยงาม
สิ่งต้องห้ามของผู้ประกอบการ
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของการเริ่มต้นทำธุรกิจ คือการที่ไม่สามารถจะมองเห็น ประมาท ไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่สามารถรักษาระดับได้
ถ้าไม่ทราบว่าคู่แข่งของคุณอยู่ที่ไหน มั่นใจเกินเหตุและประมาทคู่แข่งเกินไป ในที่สุดแล้วคุณก็จะตามหลังเขา
แม้ว่าคู่แข่งของคุณยังเล็กหรืออ่อนแอ่อยู่ คุณควรประเมินเขาอย่างจริงจังและปฏิบัติต่อเขาเหมือนเค้าเป็นยักษ์ใหญ่ ในทางเดียวกัน หากคู่แข่งของคุณเป็นยักษ์ใหญ่ คุณก็ไม่ควรมองว่าตัวเองว่านั้นอ่อนแอ
การเปิดบริษัทของคุณเอง
การเริ่มต้นทำบริษัทของคุณเองจะทำให้คุณสูญเสียรายได้ที่มั่นคง คุณจะมีสิทธิ์หยุดได้ตามใจ จะได้โบนัสหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของคุณ อย่างไรก็ตาม มันก็หมายความว่า รายได้ของคุณก็จะไม่ถูกจำกัด คุณจะใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และคุณจะไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากคนอีกต่อไป
หากว่าคุณมีความคิดที่แตกต่างกัน ผลลัพธ์ของคุณก็จะแตกต่าง: ถ้าคุณตัดสินใจเลือกสิ่งที่แตกต่างจากคนรอบข้างคุณ ชีวิตของคุณจะแตกต่างจากคนรอบข้างคุณ
โอกาส
ถ้าหากมีข้อเสนอหนึ่งมาแล้ว คนส่วนใหญ่ตอบว่า “ใช่” เกินกว่า 90%, แจ็คหม่าจะทิ้งข้อเสนอนั้นทิ้งทันทีเหตุผลง่ายนิดเดียว ถ้าหากมีคนเยอะขนาดนี้คิดว่าข้อเสนอนั้นดี แสดงว่ามีคนอีกเยอะที่กำลังทำงานนี้อยู่ และโอกาสนั้นมันก็ไม่ได้เป็นของเราแล้ว